Money Saving Coach

Money Saving Coach

Wednesday, July 10, 2019

โซเชียลแชร์คลิปแอบถ่าย “ตร. 5 นาย” รุมกระทืบหนุ่มเสื้อขาว ที่ถูกมัดมือ อีกฝ่ายตะโกนลั่น “ผมกลัวแล้ว” Five Polices

โซเชียลแชร์คลิปแอบถ่าย "ตร. 5 นาย" รุมกระทืบหนุ่มเสื้อขาว ที่ถูกมัดมือ อีกฝ่ายตะโกนลั่น "ผมกลัวแล้ว"


เป็นประเด็นที่ วิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมากในโลกออนไลน์อีกครั้ง เมื่อเหล่าชาวเน็ตแห่แชณืกันเป็นจำนวนมาก โดยคลิปนี้ ระบุข้อความว่า "มีพลเมืองดี ไม่ประสงค์ออกนาม (กลัวโดนเก็บ) ช่วยแชร์หน่อยๆ แจ้งเหตุการณ์ ตำรวจ ซ้อม ผู้ต้องหา 4:1 สน.หลักสอง เกิดเหตุ 7/7/62 เวลา ประมาณ 14.00 น. ติดตามคลิปนี้ให้หน่อยครับ ขอบคุณครับ"

หลังจากโพสต์นี้ได้เผยแพร่ออกไป ก็มี ชาวเน็ตก็ได้เข้า มาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ทั้งวิพากษ์วิจารณ์กับความไม่เหมาะสมในการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นอย่างมาก


ชมคลิป





Klook.com

งวดนี้ต้องรวย งานบุญหล่อพระ “หลวงปู่”เขียนใส่มือ ให้โชคเลข 2 ตัว

งวดนี้ต้องรวย งานบุญหล่อพระ "หลวงปู่"เขียนใส่มือ ให้โชคเลข 2 ตัว


เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ในเฟซบุ๊ก Sawat Majaiwong ได้โพสต์รูปภาพขณะที่ได้ไปทำบุญหล่อพระที่วัดแห่งหนึ่ง และโชคดีมีหลวงปู่เลขเลขเด็ดใส่มือให้ นำนำมาโพสต์แบ่งปัน เพื่อเป็นแนวทางในงวดวันที่ 15 ก.ค.ที่จะถึงนี้ โดยระบุข้อความว่า…
ไปทำบุญหล่อพระวันนี้
หลวงปู่เขียนใส่มือให้ชอบตามได้นะครับ



เมื่อโพสต์ดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตร่วมแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ซึ่งเรื่องดังกล่าวถือว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ




ที่มา Sawat Majaiwong

หนึ่งภาพสะท้านทั้งหัวใจ “พ่อ-แม่-ลูกน้อยที่ป่วย” กลางแดดร้อนจัด พ่อลงมาปรับถังออกซิเจนทุกไฟแดง

หนึ่งภาพสะท้านทั้งหัวใจ "พ่อ-แม่-ลูกน้อยที่ป่วย" กลางแดดร้อนจัด พ่อลงมาปรับถังออกซิเจนทุกไฟแดง


แน่นอนว่าหลายคนอยากเกิดมาพร้อมร่างกายที่สมบูรณ์ สติปัญญาดีและเกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่นมีฐานะทางสังคมเป็นที่ยอมรับ แต่คนเราเลือกเกิดไม่ได้ เพราะต้นทุนชีวิตคนเราไม่เท่ากัน ทั้งต้นทุนด้านร่างกาย ต้นทุนด้านสติปัญญา และต้นทุนด้านครอบครัว
ล่าสุดโซเชียลได้แห่แชร์ภาพสุดสงสารของครอบครัวหนึ่งที่ทำเอาผู้พบเห็นแทบร้องไห้ตามเลยทีเดียว เป็นรูปภาพที่ 3 พ่อ แม่ ลูก ขับมอเตอร์ไซค์ไปมุ่งหน้าไปทางอำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย พ่อเป็นคนขับขี่ เเละผู้เป็นเเม่เอาผ้าขาวม้าพาดสะพายคล้องบ่า อุ้มลูกน้อยที่กำลังป่วย หายใจเองไม่ได้ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา เหมือนกำลังจะเดินทางไปหาหมอ โดยบนมอเตอร์ไซค์มีถังออกซิเจนพาดถูกมัดติดกับรถ

ภาพดังกล่าวเผยแพร่จากสมาชิกเฟซบุ๊ค Chirapat Pinkong โดยมีเนื้อหาอยู่ว่า "พูดไม่ออก คิดแคปชั่นไม่ออก
คุณแม่กับคุณพ่อน้องขี่รถเลยไปทางแม่จัน ใครทราบหรือรู้จักหรือพบเห็น หากช่วยเหลือได้ มาดามฝากด้วยนะคะ อากาศร้อนมาก คุณพ่อหันมาปรับถังออกซิเจนน้องทุกไฟแดงเลย และรถสัญจรเยอะมากช่วงนี้
ขอบคุณโลกนี้ที่สร้างความรักที่แท้จริงจากคนที่เรียกว่าพ่อกับแม่มาให้ อย่างน้อยมันก็เป็นสิ่งหนึ่งที่คนทั้งโลกโชคดีเหมือนๆกัน"

หลังจากภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปในโลกออนไลน์ ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก
และหากสังเกตุดีๆจะเห็นได้ว่า หนูน้อยคนดังกล่าว ที่อยู่ในอ้อมกอดของเเม่ ได้พยายามหันมา โบกมือบ๊ายบายคนที่ถ่ายภาพเอาไว้ เป็นภาพที่เรียกได้ว่ายิ้มทั้งน้ำตา



ขอบคุณที่มา : Chirapat Pinkong


ไม่ใช่หน้าที่ แต่คือจิตสำนึก หนุ่มรถบรรทุกอาสาช่วยบิ๊กไบค์ เจออุบัติเหตุกลางเขา ฟ้าใกล้มืด ทางสุดอันตราย

ไม่ใช่หน้าที่ แต่คือจิตสำนึก หนุ่มรถบรรทุกอาสาช่วยบิ๊กไบค์ เจออุบัติเหตุกลางเขา ฟ้าใกล้มืด ทางสุดอันตราย


เป็นเรื่องราวที่น่าชื่นชมของความมีน้ำใจเพื่อนมนุษย์ที่มีร่วมกัน เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2562 ได้เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ถนนหล่มสัก-ชุมแพ ระหว่างกิโลเมตร 391-392 บ้านวังยาว ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าในวันเดียวกันเวลา 21.43 น. ได้มีผู้ใช้ face book ชื่อ "ผู้ชาย ใส่แว่น" ได้โพสคลิปวีดิโอ

พร้อมระบุข้อความว่า อาจไม่ใช่หน้าที่ แต่ในฐานะเพื่อนร่วมถนนเราก็มิอาจเฉยได้ ตอนแรกเราเลยไปแล้ว ก็เลยคุยกันว่า กลับไปดูเขาหน่อยเผื่อเขาต้องการความช่วยเหลือมันเย็นแล้ว เลยไปหาที่กลับรถ(ใครเคยขึ้นเขาจะรู้ว่ารถ6ล้อหาที่กลับรถยากแค่ไหน แต่เราต้องมาให้ได้)ทางขึ้นเขาชันมากมันจะมืดแล้วไฟฟ้าก็ไม่มี

เราเลยอาสาพาลงจากเขาไปด้วยกัน คนขับถาม"พี่คิดเท่าไหร่"ไม่เอาพี่ ปะๆๆยกๆๆคนขับปลอดภัยครับ ถนนเส้นน้ำหนาว มุ่งหน้าเขาค้อครับ เดินทางด้วยความระมัดระวังนะครับ

เพิ่มเติมเจ้าตัวได้ระบุข้อความว่า เราสองคนผ่านมาเจอพอดีครับเลยถามว่า พี่เป็นไรมั้ยเอางัย "รอประกันครับ" โหพี่โทรหาประกันเลย ทิ้งไว้ตรงนี้มันอันตราย ทางโค้งบนเขา จะมืดแล้ว แล้วประกันจะยกยังไงรถคันเบอเร่อ ป่ะถ่ายรูปไว้ ยกๆๆไปข้างล่างด้วยกันตรงนี้มันอันตราย "พี่คิดเท่าไหร่" โห่พี่คิดเคิดอะไร ไม่เอ้า!!! ไปๆยกๆ ประมาณนี้


ความเห็นจากชาวเน็ต

Loading...
เรียบเรียงโดยทีมงาน เปิดโปง
ขอบคุณที่มา ผู้ชาย ใส่แว่น
ชมคลิป


Tuesday, July 9, 2019

น้ำตามันไหลมาอีกครั้ง ครั้น”สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงฯ”เสด็จฯพระราชทานปริญญาบัตรพร้อมสายน้ำเกลือ #ทรงพระเจริญ

น้ำตามันไหลมาอีกครั้ง ครั้น”สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงฯ”เสด็จฯพระราชทานปริญญาบัตรพร้อมสายน้ำเกลือ #ทรงพระเจริญ


เป็นภาพที่ถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2557 กลุ่มนักศึกษาทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ใหม่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ต่างร่วมกันแชร์ภาพประทับใจในโลกไซเบอร์ด้วยความรู้สึกปลื้มปีติในพระมหากรุณาธิคุณที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ได้เสด็จแทนพระองค์ มาพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจาก

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ประจำปีการศึกษา 2556 ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 2-4 กันยายน 2557 แม้พระองค์จะประชวรและยังไม่ถอดสายน้ำเกลือ ซึ่งภาพและข้อความดังกล่าวได้ถูกแชร์ต่อกันอย่างมากมายในสังคมออนไลน์

โดย เฟซบุ๊ก Princess Chulabhorn FC ได้โพสต์ภาพและข้อความเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2557 ระบุว่า “วันนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์ ไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ประจำปีการศึกษา 2556 ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

***การพระราชทานปริญญาบัตรในครั้งนี้พระองค์ยังไม่ได้ถอดสายน้ำเกลือออกตั้งแต่เสด็จออกจากโรงพยาบาลวิชัยยุทธ สังเกตได้จากเสาน้ำเกลือที่ตั้งอยู่ทางด้านขวาของพระองค์***

“แม้จะทรงพระประชวร แม้จะทรงเหนื่อยล้า เพื่อลูกพระบิดา พระองค์ตรัสว่า “สู้ ๆ ค่ะ”ขออนุญาตถ่ายทอดความรู้สึกซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณของทูลกระหม่อมฯ เสด็จแทนพระองค์ พระราชทานปริญญาบัตรพร้อมสายน้ำเกลือ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน…ขอบพระคุณข้อมูลจาก คุณ Atchara Jansena”


ผู้จัดการธนาคาร เกือบซวย ยืมรถเพื่อนมาขับ ถูก ตร.เรียกตัวยึดรถทันที

ผู้จัดการธนาคาร เกือบซวย ยืมรถเพื่อนมาขับ ถูก ตร.เรียกตัวยึดรถทันที


วันที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นายจักรมงคล ระถะการ อายุ 58 ปี ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.กระบี่ เข้าพบ พ.ต.อ.สมเด็จ สุขการ ผกก.สภ.เมืองกระบี่ และ ร.ต.อ.บุญส่ง ล่องวารี รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองกระบี่ เพื่อให้รายละเอียดเพิ่มเติมกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน สภ.เมืองกระบี่ ได้เข้าตรวจยึดรถเก่งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแคมรี่ สีขาว ทะเบียน กฉ.3269 กระบี่ ได้บริเวณลานปฎิมากรรมปูดำ เขตเทศบาลเมืองกระบี่ ซึ่งรถเป็นของนายวินัย ระถะการ อายุ 36 ปี (ลูกชาย) หลังจากที่มีคนขับมาจอดไว้ ซึ่งรถคันดังกล่าว ได้แจ้งความรถหายไว้ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.62 ที่ผ่านมา

นายจักรมงคล เล่าว่า ก่อนที่รถจะหายไป ทางลูกชาย คือนายวินัย ได้ให้นายม่าเลก หรือมูสัง คนเรียน ซึ่งรู้จักกันนำไปฝากไว้ที่สถานที่รับฝากรถแห่งหนึ่งไม่มีชื่อในเขตเทศบาลเมืองกระบี่ วันที่ 24 มิ.ย. และในวันที่ 27 มิ.ย.นายวินัย(ลูกชาย)ได้ไปรับรถคืน ปรากฏว่าคนที่รับรถไว้บอกว่า นายมาเลก ได้รับรถไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย.จึงได้พยายามติดต่อนายมาเลก แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงเชื่อว่ารถถูกนายมาเลก ขโมยไปแล้ว จึงได้เข้าแจ้งความไว้ และได้พยายามตามหานายมาเลกและรถ แต่ก็ไม่เจอ
จนเมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา มีคนเห็นรถตามที่ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้ ขับวนเวียนอยู่ในตัวเมืองกระบี่ ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบและตรวจยึดรถไว้ พร้อมนำตัวคนขับเป็นผู้หญิงทราบชื่อ นางเอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 67 ปี ชาว จ.ชุมพร มาสอบสวน ทราบว่าเป็นผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่ง ใน จ.ชุมพร ได้ยืมรถมาจากนายขาว อยู่ใน จังหวัดเดียวกัน เนื่องจากรถของตัวเองเสียและส่งซ่อม และได้ขับไปทำธุระที่ จ.สงขลา และขับเข้ามาเที่ยว จ..กระบี่ โดยไม่รู้ว่า เป็นรถที่เจ้าของได้แจ้งความหายไว้

เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้เรียกทุกคนที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ พบว่าหลังจากที่รถหาย มีนายมาเลก คนที่เอารถออกมาจากที่ฝากรถ นำไปขายให้กับเต็นท์รถรายหนึ่ง ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ในราคา 160,000 บาท โดยนัดหมายซื้อขายกันที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ทางเข้าวัดถ้ำเสื้อ ต.กระบี่ใหญ่ เขตเทศบาลเมืองกระบี่ และนำไปขายต่อให้กับเต็นท์รถ ในพื้นที่ จ.ชุมพร อีกทอด ในราคา 180,000 บาท หลังจากสอบปากคำทุกคนที่เกี่ยวข้องก็ได้ปล่อยตัวไป โดยยังไม่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดี

ทั้งนี้พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมสำนวนพยานหลักฐาน เพื่อขออำนาจศาลอนุมัติออกหมายจับนายมาเลก คนที่นำรถออกมาจากที่รับฝาก ก่อนที่จะหายตัวไป ในข้อหาลักทรัพย์ ส่วนจะมีใครเกี่ยวข้อง หรือทำกันเป็นขบวนการหรือไม่ ก็ต้องว่ากันต่อไปตามพยานหลักฐาน
จากการสอบถามเจ้าของเต็นท์รถ ทราบว่า ก่อนที่จะรับซื้อรถคันดังกล่าว ทางผู้ขายอ้างว่ารถหลุดจำนำ และได้ทำการตรวจเช็คประวัติของรถ รวมทั้งเอกสารต่างๆเป็นอย่างดี ไม่มีการอายัดทะเบียน และมีการเซ็นเอกสารโอนลอยไว้ครบทุกอย่าง ไม่รู้ว่าเป็นของจริงหรือของปลอม ยกเว้นไม่มีหน้าเล่มตัวจริง ส่วนกุญแจ ก็เป็นกุญแจเดิม จึงได้ตกลงซื้อ แต่สุดท้ายก็พลาดจนได้ และยืนยันว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆกับเหตุการณ์รถหาย ส่วนคนอื่นก็เช่นเดียวกัน


นร.สาว ม.4 น้อยใจถูกพ่อแม่ห้ามเล่นโซเชียล คว้า .38 ยิงตัวดับสลด

นร.สาว ม.4 น้อยใจถูกพ่อแม่ห้ามเล่นโซเชียล คว้า .38 ยิงตัวดับสลด


วันที่ 17 มี.ค. ร.ต.อ.รุจจิโรจน์ กิติกนกกาญจน์ ร้อยเวร (สอบสวน) สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ รับแจ้งเหตุมีนักเรียนสาวยิงตัวเองเสียชีวิตภายในบ้านพักเป็นอาคารพาณิชย์สูง 2 ชั้น ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ปัญณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 แพทย์โรงพยาบาลประชาธิปัตย์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้ง


ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพิณิชย์ปลูกติดกัน 13 คูหา บริเวณชั้นที่ 2 ซึ่งเป็นห้องนอนพบศพ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นมัธยศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ สภาพใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงที่บริเวณเหนือระหว่างคิ้ว กระสุนฝังใน 1 นัด เสียชีวิตบนเตียงนอน สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ กางเกงวอร์มขายาวสีดำ
ข้างศพพบอาวุธปืนขนาด .38 ตกอยู่ 1 กระบอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่ผู้ตายจะใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต

พ.ต.อ.ปัญณพัฒน์ กล่าวว่า จากการสอบถามพ่อแม่ของผู้เสียชีวิต บอกว่า สาเหตุที่น.ส.เอยิงตัวเองเสียชีวิตนั้น เพราะน้อยใจพ่อกับแม่ที่ว่ากล่าวตักเตือน เนื่องจากผู้ตายชอบอยู่แต่โลกโซเชียล ซึ่งบาดแผลที่พบนั้นบริเวณเหนือระหว่างคิ้ว และพบปลอกกระสุนปืนอยู่ในรังเพลิง 2 ปลอก กระสุนปืนที่ยังไม่ได้ยิงอีก 4 นัด และที่บนเพดานห้องก็ยังพบว่ามีรอยกระสุนปืน 1นัด
ด้าน ร.ต.อ.รุจจิโรจน์ หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วจึงได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานและได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้งนำผู้เสียชีวิตส่งนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียติ เพื่อตรวจสอบอีกครั้ง และได้นำพ่อกับแม่ของน้องที่เสียชีวิตไปสอบสวนอีกครั้งที่สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์